วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ต่อไป เรามาดูการทำ'♥' Blueberry Cream Cake - เค้กนมสดบลูเบอร์รี่ '♥'

'♥' Blueberry Cream Cake - เค้กนมสดบลูเบอร์รี่ '♥'

สปันจ์นมสดนิ่มเบากับครีมนุ่มลิ้น ตัดรสหวานอ่อนๆด้วยบลูเบอร์รี่ฟิลลิ่งเปรี้ยวๆ เข้ากันที่สุดเลย เป็นขนมที่ทานแล้วรู้สึกมีความสุข เลยอยากแบ่งความสุขนี้ให้กับเพื่อนบล็อกทุกคนค่ะ ตัวเค้กเป็นเค้กสปันจ์ดัดแปลงมาจากสูตรของเว็บญี่ปุ่ น รสชาติเลยไม่หวานจัด ทานแล้วไม่เลี่ยน แถมไม่อ้วนเท่าไหร่ด้วยเพราะไขมันน้อย ในรูปเป็นสูตรเล็ก ใช้ไข่ 3 ฟอง เนยอีกแค่ 2 ช้อนโต๊ะเอง ถ้าใครไดเอ็ทไม่ต้องแต่งหน้าด้วยครีมก็ได้.. แค่ราดด้วยบลูเบอร์รี่ฟิลลิ่งเฉยๆก็อร่อยแล้วค่ะ

เวลาไปซื้อขนมตามเบเกอรี่ที่เมืองไทย เวลาเห็นขนมอะไรที่มีคำว่าสดๆทั้งหลาย เช่น นมสด, กะทิสด, ครีมสด, หรือมะพร้าวอ่อน, สังขยาอะไรเทือกนี้ อดไม่ได้ที่จะลองชิมทุกที มีความรู้สึกว่ามันดึงดูดน่ากิน เค้กที่ทำวันนี้ก็เหมือนกันค่ะ จริงๆก็คือเค้กสปันจ์บลูเบอร์รี่่ แต่ตามร้านชอบเรียกกันว่าเค้กนมสดบลูเบอร์รี่ หรือเค้กบลูเบอร์รี่นมสด ฟังแล้วน่าทานขึ้นเป็นกอง พอดีไปเจอสูตรสปันจ์เค้กจากเว็บ cookpad ของญี่ปุ่น เห็นคนทำการบ้านส่งกันเกือบร้อยคน เดาว่าคงอร่อย เลยลองทำดู ออกมาไม่ผิดหวังเลยค่ะ เค้กนุ่มนิ่ม เบา ไขมันต่ำก็จริง แต่อร่อยมากๆๆๆ

น่ากินป่าว...




สูตรสปันจ์วานิลลา หรือสปันจ์นมสดนะคะ




Baking Notes:

- วิธีดูว่าส่วนผสมข้นจนเรียกว่าอยู่ในขั้น Ribbon stage... นอกจากจะใช้วิธีลากหัวตีดูความข้นของส่วนผสม ยังมีอีกวิธีคือปักไม้จิ้มฟันลงไปในส่วนผสมไข่ที่ตีข ้นๆแล้ว ถ้าไม้จิ้มฟันตั้งอยู่ได้ไม่ล้มก็ใช้ได้ วิธีนี้จำมาจากเว็บญี่ปุ่นอีกที แต่จำชื่อเว็บไม่ได้แล้วค่ะ
- การเทนมและเนยลงในส่วนผสม ต้องเทเป็นสายช้าๆแต่สม่ำเสมอ ถ้าเติมเร็วเกินไป ส่วนผสมเนยและไข่ไม่เข้ากัน จะทำให้ก้นเค้กเป็นไต และเคยดูในรายการทำอาหารที่เมืองไทย จำไม่ได้ว่ารายการอะไร แต่เชฟบอกว่านมและเนยร้อนๆจะช่วยไม่ให้ไข่ยุบค่ะ เคยเซฟสูตร Hot milk sponge cake ไว้ หลายๆสูตรก็ใส่นมเดือดๆเลยด้วยซ้ำ แต่กลัวว่าถ้าเผลอเติมคราวละเยอะไป ไข่อาจจะสุกทำให้เป็นลิ่ม ก็เลยใส่แบบอุ่นจัดๆและใส่ทีละน้อยแทนค่ะ
- การเติมกลิ่นวานิลลา ให้เติมหลังเติมนมและเนยร้อนๆเสร็จแล้ว เพราะความร้อนทำให้แอลกอฮอล์ในวานิลลาระเหย เค้กจะไม่หอมเท่าที่ควร
- การอบเค้ก..เตาที่บ้านแบบไข่ 4 ฟอง อบไป 30 นาที ส่วนแบบไข่ 3 ฟองอบ 32 นาทีค่ะ
- เค้กที่ราดบลูเบอร์รี่กระป๋องแล้ว ถ้าแช่ตู้เย็นไม่นานพอ เวลาตัดบลูเบอร์รี่จะเยิ้มๆอย่างในภาพ เพราะไม่มีเวลาแช่นานๆ แสงจะหมดซะก่อนค่ะ ถ้าแช่ไว้คืนนึงขึ้นไป เวลาตัดจะเยิ้มพอดีๆกำลังสวยเลย และก็ไม่ต้องกลัวเค้กแช่เย็นแล้วจะแข็งแบบเค้กเนยด้ว ยค่ะ

วิธีทำตัวเค้ก วันนี้ทำแบบไม่ใส่เอสพีมาให้ดู เพราะว่าวิธีทำค่อนข้างยากกว่า แต่ไม่ใช่วิธีทำสปันจ์เค้กแบบปกตินะคะ แต่จะเป็นลูกผสมระหว่างวิธีทำเค้กชิฟฟ่อน+เค้กสปันจ์ ค่ะ คือแยกตีไข่ขาวไข่แดง อบออกมาเค้กได้ปริมาตรดี ไม่เป็นไต แต่เนื้อเค้กมันจะออกมาหยาบกว่าแบบใส่เอสพีนิดหน่อย สงสัยจะตีไข่ขาวตั้งยอดเกินไป เหมือนเวลาทำเค้กชิฟฟ่อน.. ถ้าตีไข่ขาวตั้งยอดไปเค้กจะหยาบอ่ะค่ะ แต่รวมๆแล้วก็นิ่มอยู่ดี ต่อไปถ้าทำเค้กสปันจ์ไม่ใส่เอสพีจะใช้วิธีนี้ตลอดเลย

รูปนะคะ...



วิธีทำแบบไม่ใส่เอสพี:1. ตีไข่ขาวให้ตั้งยอดอ่อนๆ เติมน้ำตาลทรายป่นทีละน้อย อย่าเติมพรวดเดียวจะทำให้ไข่ขาวฝ่อ เกือบลืม... ไข่ที่ใช้ควรเป็นไข่สดด้วยค่ะ แยกตอนเย็นๆ แต่เอามาตีตอนอยู่ที่อุณหภูมิห้องแล้ว
2. พอตั้งยอดแล้วเติมไข่แดงลงไปทีละฟอง ตีความเร็วสูงให้ข้นขาวอยู่ตัว เทสต์ ribbon stage ด้วยวิธีลากหัวตีเหมือนเดิม หรือจะใช้ไม้จิ้มฟันปักดูก็ได้ ตีประมาณ 8 นาทีค่ะ ใกล้ๆได้ที่แล้วเติมวานิลลา ตีต่อให้เข้ากัน ที่เติมก่อนเนยเพราะกลัวว่าถ้าเติมหลังเนยนมแล้ว เวลาผสมให้เข้ากันไข่มันจะยุบ แต่ใครจะใส่หลังสุดก็ได้ค่ะ
3. เติมแป้งทีละส่วน ผสมความเร็วต่ำให้หมดผงแป้ง
4. อุ่นเนยและนมให้ร้อน เทช้าๆให้เป็นสายเล็กๆสม่ำเสมอลงไปในส่วนผสม ตีความเร็วต่ำหรือคนตะล่อมด้วยพายยางให้เข้ากันดี อย่าให้เห็นเนยแยกตัวอยู่ เพราะอบออกมาเค้กจะเป็นไต ที่ทำ batter จะเหลวกว่าแบบใส่เอสพี แต่อบออกมาก็ฟูเต็มพิมพ์เหมือนกันค่ะ
5. เทใส่พิมพ์รองกระดาษไข อบตามปกติเหมือนแบบใส่เอสพี ทดสอบด้วยการใช้นิ้วแตะทดสอบการสปริงตัวของเค้กเหมือ นกันค่ะ

รูปวิธีลากหัวดีเช็คริบบ้อนสเตจ ตรงปีไม่ได้พิมพ์ผิดนะคะ แต่อันนี้ทำไว้ตั้งแต่ Strawberry n' cream cake ตอนวันเกิดแฟน 2 ปีก่อนนู่นแน่ะ ขี้เกียจแก้ แต่ดูไปดูมาเหมือนจะต้องตีให้ข้นกว่านี้อีกหน่อย เดี๋ยวคราวหน้าถ่ายรูปมาซ่อม อันนี้เป็นแบบไม่ใส่เอสพีนะคะ




เค้กที่ได้ (แบบไม่ใส่เอสพี) คราวนี้หน้าไม่ย่นเท่าไหร่ ปกติอบออกมาหน้าเหี่ยวเชียว เห็นแล้วพาลเอาหน้าคนทำเหี่ยวไปด้วย




ส่วนวิธีทำตัวเค้กแบบใส่เอสพี ไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไหร่เลยไม่ได้ถ่ายภาพประกอบ เพราะทำตอนเกือบเที่ยงคืน แต่ส่วนผสมตีออกมาจะข้นเนียนกว่าแบบไม่ใส่เอสพี ข้นประมาณนี้


สูตร Sweetened Whipped Cream


วิธีทำวิปครีมฟรอสติ้ง


รูปตอนประกอบร่าง



ลืมบีบครีมตรงรอบเค้กตรงขอบล่างๆ ไม่เป็นไร.. วันนี้ถือคติ less is more แล้วกัน




ตัดหลังแช่ตู้เย็นไว้ตอนออกไปหาหมอ น่าจะแช่ไปแค่ 3 ชั่วโมงเองมั้งคะ ผ่าแล้วเลยเยิ้มเลย ทำให้แยมติดอยู่ตามเค้กด้วย




ว่าจะซูมให้ดูเนื้อเค้ก ทำไมมันออกมาเบลอๆหว่า ตัวเค้กนิ่มมากกกกก ถึงแม้จะแช่เย็นไว้ เพราะมีส่วนผสมของเนยน้อยมากค่ะ จัดเป็นเค้กไขมันต่ำ ทานเปล่าๆไม่ต้องใส่ครีมก็อร่อย หอมมันจนไม่อยากเชื่อว่าใส่เนยแค่ 2 ช้อนโต๊ะ อร่อยกว่าสูตรญี่ปุ่นอีกสูตรที่เคยทำอีก




ทานเป็นของว่างยามบ่าย นุ่ม เบาทั้งเค้กทั้งครีม ตรงที่แยมเยอะๆยิ่งอร่อย ทานแล้วเหมือนลอยอยู่บนปุยเมฆ (ขนาดนั้นเลย )



ลืมอีกแล้ว... ตอนบีบครีม จะใช้หัวบีบรูปดาวบีบทำลายก้นหอยไขว้ไปมาก็ได้ หรือถ้าจะทำแบบในรูปก็ใช้หัวบีบกลมจัมโบ้ ขนาดเดียวกับที่ใช้ทำอิตาเลี่ยนเลดี้ฟิงเกอร์ส (
Savoiardi) น่ะค่ะ ลองคลิกเข้าไปดูแล้วกัน วิธีบีบก็ง่ายๆ แค่บีบเป็นรูปหยดน้ำซ้อนๆกันไปเรื่อยๆ ให้ล้ำๆออกไปนอกตัวเค้กหน่อย จากนั้นปาดรอบข้างเค้กด้วยไพ่ตัดทำเป็นลายตามต้องการ ค่ะ ไอเดียมาจากตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น ทำออกมาไม่เหมือนของเค้าหรอกค่ะ จำไม่ได้ว่าไม่เหมือนยังไง พอดีไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ เดี๋ยวต้องไปลองเซิร์ชดูใหม่

เห็นรึเปล่าเอ่ย.. เนื้อเค้กนิ่มเบายังกับสายไหมเลย แต่วันนี้กล้องไม่เป็นใจ.. มัวๆเบลอๆซะส่วนมาก ชัดสุดได้แค่นี้อ่ะค่ะ ลองทำกันดูนะคะ ตั้งแต่ทำเค้กมา เค้กนี้หมดไวสุด ปกติจะทานกันวันละชิ้นสองชิ้นกับแฟน กว่าจะหมดก็ใช้เวลาหลายวัน แต่เค้กนมสดบลูเบอรี่นี้ 2 วันก็หมดแล้ว ต้องทำสูตรนี้อีกแน่ๆ แล้วจะถ่ายรูปมาให้ดูใหม่น๊า


ชิ้นนี้เสิร์ฟให้ทุกคนที่แวะมาเยี่ยมค่ะ


วิธีทำเค้กช็อกโกเเล๊ต มาเเร้วจร้า.

เค้กช็อกโกแลต

เค้กช็อกโกแลต


 

เค้กชอคโกแลตหน้านิ่ม : ทำอย่างไรให้เค้กหน้าเด้ง 

          ใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาล วันวาเลนไทน์ ที่หนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายคนรอคอยเพื่อที่จะได้บอกรักใครสักคน วันนี้เรามีสูตรขนมเค้กช็อกโกแลต สูตรเด็ดของคุณจุ๋ม(แม่สลิ่ม) อร่อย ๆ มาฝากกันค่ะ...

เค้กช็อกโกแลต

          เตรียมพิมพ์ก่อนคะ วันนี้ใช้พิมพ์กลมขนาด 2 ปอนด์ (เส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว) ปูกระดาษไข ไม่ต้องทาไขมันค่ะ

เค้กช็อกโกแลต

          วอร์มเตาอบ จุ๋มใช้ 180 องศาเซลเซียสค่ะ ไฟล่างอย่างเดียว ตรงนี้คุณอุ๋มอิ๋มใช้บนล่างนะ จุ๋มเคยอบบนล่างแล้วเค้กหน้านูนมาก ต้องเฉือนทิ้ง เสียดายน่ะค่ะ

          มาดูส่วนผสมกันค่ะ เริ่มตัวเค้กก่อนนะคะ จุ๋มทำ 1/2 สูตรของคุณแพรนะคะ หาร 2 หมด ยกเว้นหน้าทำเต็มสูตร จุ๋มชอบหน้าหนา ๆ

เค้กช็อกโกแลต
ส่วนผสมตัวเค้กส่วนที่ 1 

          - แป้งเค้ก 80 กรัม
          - ผงฟู 1/4 ช้อนชา
          - เบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
          - กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (คุณแพรใช้แบบผง แต่จุ๋มใช้แบบน้ำค่ะ)
          - เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
          - ผงโกโก้ 25 กรัม
          - น้ำตาลทรายป่น 90 กรัม (ถ้าหาร 2 จากคุณแพรต้องใส่ 100 กรัม จุ๋มลดลงไปเองนะคะ)

เค้กช็อกโกแลต

ส่วนผสมตัวเค้กส่วนที่ 2

          - น้ำ 50 กรัม
          - นมข้นจืด 25 กรัม
          - น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
          - น้ำมันพืช 65 กรัม
          - ไข่แดง 2 ฟอง

เค้กช็อกโกแลต

ส่วนผสมตัวเค้กส่วนที่ 3 

          - ไข่ขาว 2 ฟอง (เหตุผลเหมือนด้านบน)
          - น้ำตาลทราย 45 กรัม (ถ้าหาร 2 จากสูตรต้องเหลือ 50 จุ๋มลดลงมา 5 กรัมค่ะ)
          - ครีมออฟทาทาร์ 1/4 ช้อนชา


วิธีทำตัวเค้ก


เค้กช็อกโกแลต

           นำส่วนผสม 1 ได้แก่ แป้งเค้ก น้ำตาลทรายป่น ผงโกโก้ โซดา ผงฟู ร่อนร่วมกัน 2 ครั้งคะ ถ้าใช้วนิลลาแบบผงก็ร่อนรวมกันไปเลย แต่จุ๋มใช้แบบน้ำใส่ทีหลังคะ เกลือป่นจุ๋มใส่หลังจากร่อนของแห้งอื่น ๆ แล้วนะคะ เพราะมันค่อนข้างเม็ดใหญ่ แล้วเอาช้อนให้เข้ากัน ทำหลุมตรงกลางไว้ค่ะ

เค้กช็อกโกแลต

          นำส่วนผสมที่ 2 ได้แก่ น้ำเปล่า นมข้นจืด น้ำมันพืช ไข่แดง น้ำมะนาว ทุกอย่างข้างต้นใส่ชามผสม ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน จุ๋มใช้วานิลลาแบบน้ำ ใส่ไปในนี้เลยค่ะ


เค้กช็อกโกแลต

เค้กช็อกโกแลต

          แล้วนำของเหลว (2) ที่ผสมกันไว้เทใส่ชามผสมของแห้ง (1) ค่ะ แล้ว เอาตะกร้อมือคนแบบน้ำเซาะตลิ่งให้เข้ากัน หรือจะคนแบบแรง ๆ เร็ว ๆ ก็ได้คะ พอเข้ากันแล้วหยุดเลย ถ้าคนมากเนื้อเค้กที่ได้เหนียวคะ แล้วพักไว้ก่อนคะ


เค้กช็อกโกแลต

          มาถึงส่วนผสมที่ 3 บ้างค่ะ ไข่ขาวและครีมออฟทาร์ทาร์ใส่ชามผสม ตีด้วยความเร็วสูงจนเป็นฟอง ใส่น้ำตาลทรายป่นลงไปแล้วตีต่อด้วยความเร็วสูงค่ะ จุ๋มใส่ทีละช้อนนะ ประมาณ 3 ครั้งค่ะ จนตั้งยอดอ่อนก่อนที่จะแข็ง แล้วหยุดค่ะ


เค้กช็อกโกแลต

          นำส่วนของไข่ขาวไปผสมกับส่วนของไข่แดงที่เราผสมกันไว้เมื่อกี้ จุ๋มแบ่งผสม 2 ครั้งนะ ใช้ตะกร้อมือส่วนผสมจะเข้ากันง่ายกว่าไม้พายนะคะ ถ้าตีไข่ขาวตั้งยอดมากไป ผสมกว่าจะเข้ากันใช้เวลานานนะคะ ไม่ดี เนื้อเค้กก็จะหยาบแห้งด้วย ก็ผสมกันจนหมดนะคะ พอผสมเข้ากันดีแล้วเทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้คะ เคาะก้นพิมพ์เบา ๆ ไล่ฟองอากาศออกไปค่ะ นำเข้าเตาอบได้เลยค่ะ

เค้กช็อกโกแลต

          เค้กสุกนำออกมา กระแทกพิมพ์ให้โครงสร้างอยู่ตัว 1 ที รอเย็นนำออกจากพิมพ์ค่ะ อันนี้แล้วแต่เทคนิคนะ ใครชอบทำแบบไหนก็เลือกเอาค่ะ บางคนถนัดที่จะเอาออกจากพิมพ์เลยตั้งแต่เอาเค้กออกมา แต่จุ๋มเปล่านะคะ รอเย็นค่ะ คราวนี้มาทำหน้านิ่มกันค่ะ

ส่วนผสมหน้าเค้ก 


เค้กช็อกโกแลต

ส่วนที่ 1

          - ผงวุ้น 1 ช้อนชา
          - น้ำ 300 กรัม
          - นมข้นจืด 200 กรัม
          - น้ำตาลทราย 200 กรัม
          - โกโก้ 50 กรัม

เค้กช็อกโกแลต

ส่วนที่ 2 

          - แป้งข้าวโพด 40 กรัม
          - นมข้นจืด 150 กรัม

เค้กช็อกโกแลต

ส่วนที่ 3 

          - เนยสด 150 กรัม
          - เหล้ารัม 1 ช้อนโต๊ะ (วันนี้ไม่ได้ใส่คะ คนที่ทำให้บอกว่าไม่ต้องใส่คะ)

วิธีทำหน้านิ่ม


เค้กช็อกโกแลต

          นำ น้ำ, น้ำตาลทราย, นมข้นจืดส่วนที่ 1 (200 กรัม), ผงโกโก้ และผงวุ้น ใส่หม้อรวมกันเลยค่ะ เอาตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันก่อนค่ะ

เค้กช็อกโกแลต

          ส่วนของ แป้งข้าวโพดและนมข้นจืดส่วนที่ 2 จุ๋มจับใส่ถุงรวมกันแล้วเขย่าๆ ให้เข้ากันดีค่ะ (ขี้เกียจนะ ไม่ได้ใส่ชามและใช้ช้อน)

เค้กช็อกโกแลต

          นำไปตั้งไฟอ่อนๆ แต่ก็ไม่อ่อนเสียสีเดียว มากกว่าอ่อนหน่อยค่ะ เอาตะกร้อมือคนตลอด ให้น้ำตาลทรายและผงวุ้นละลาคนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมเดือดนะคะ


เค้กช็อกโกแลต

          แล้วก็เทแป้งข้าวโพดที่ละลายรวมกับนมข้นจืดลงไป ก่อนเทเขย่าๆ อีกทีคะ ตอนนี้ต้องลดไฟลงอ่อนค่ะ ใช้ตะกร้อมือคนตลอด ส่วนผสมจะข้นขึ้น ห้ามหยุดมือค่ะ


เค้กช็อกโกแลต

เค้กช็อกโกแลต

          ของจุ๋มข้นประมาณนี้นะคะ ใส่เนยสดที่หั่นชิ้นเล็กลงไปคะ ถ้าใส่รัมใส่ตอนนี้เลยคะ คนให้เนยละลาย ปิดเตาเลยคะ


เค้กช็อกโกแลต

          จากนั้นก็คนด้วยตะกร้อมือต่อให้หน้านิ่มอุ่น ห้ามหยุดคน มันจะ set ตัวเป็นลิ่มๆ หยอดแล้วไม่สวยคะ

          เมื่อเค้กเย็นแล้วนำออกจากพิมพ์ slice เป็นกี่ชั้นตามต้องการนะคะ (ตรงนี้ไม่ถ่ายภาพให้ดู ลองไปดูการ slice ที่ blog how to decorating cake เองนะคะ ถ้าอยากได้ระหว่างชั้นหนา ๆ กับหน้าหนา ๆ แล้วละก็ลองทำวิธีนี้คะ) หาถุงจีบ ตัดด้านหน้าออกมา ถุงจีบจะมี 4 ด้าน เป็นด้านหน้าและด้านหลัง 2 ด้าน ด้านข้าง 2 ด้าน กรณีไม่มีถุงจีบก็ใช้แผ่นใสแทนก็ได้ค่ะ มาตัดให้ได้ความสูงสัก 3 นิ้วได้มังคะ ส่วนด้านความยาวให้พันรอบเค้กได้ เอาสก๊อตเทป stap ให้ต่อกันค่ะ จุ๋มใช้ถุงจีบนะ


เค้กช็อกโกแลต

          เอาเค้กชั้นล่างวางลงไป เอาถุงจีบที่ตัดไว้พันรอบค่ะ ติดสก๊อตเทปให้มันอยู่เป็นทรงกระบอก


เค้กช็อกโกแลต

          แบ่งหน้านิ่มตักใส่ไปค่ะ เท่าไรก็ใส่ไป แต่ดูให้มันสมดุลแล้วกันค่ะ หน้านิ่มนี่ต้องคอยคนตลอดนะ ห้ามหยุด หยุดแล้วมันจะเป็นลิ่มๆ ค่ะ

          แล้วก็จับเค้กเอียงๆ ให้หน้านิ่มไหล แล้วก็กระแทกๆ ให้หมดฟองอากาศ หรือใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มก็ได้ ทิ้งเวลาไว้ให้หน้านิ่มเซ็ทตัวนิดหน่อย เอานิ้วสัมผัสดูหน้ามันจะตึงๆ ค่ะ


เค้กช็อกโกแลต

เค้กช็อกโกแลต

          พอหน้านิ่มด้านล่างตึงๆ แล้วเอาเค้กชั้นต่อมาวางลงไป แล้วก็ทำเหมือนเดิมเหมือนเมื่อกี้ คราวนี้ทิ้งเวลาไว้กว่าหน้านิ่มจะเซ็ทตัวทั้งหมด


เค้กช็อกโกแลต

          จุ๋มไม่ได้จับเวลาค่ะ หันไปทำโน่นทำนี่ พอหน้านิ่มเซ็ทตัวแล้วก็แกะพลาสติกที่หุ้มไว้ออก หน้านิ่มที่เหลือจะข้นขึ้น เพราะมันเย็นแล้ว ก็เอาสปาตูลาร์หน้านิ่มด้านข้างเค้กเลยคะ แล้วเก็บรายละเอียดให้สวยงาม ทำแบบนี้ไม่ต้องเสียดายหน้านิ่มที่หกไปด้านล่างด้วยคะ พลาสติกที่ใช้งานแล้วก็ล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง เก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้นะคะ ตัดแบ่งเป็นชิ้นตามต้องการ


เค้กช็อกโกแลต

เค้กช็อกโกแลต

เค้กช็อกโกแลต

          ลองทำดูนะคะ อร่อยดีค่ะ การันตี ขอบคุณคุณอุ๋มอิ๋มมา ณ โอกาสนี้อีกครั้งค่ะ


ขอบคุณภาพประกอบและสูตรขนมจาก คุณจุ๋ม (แม่สลิ่ม)